วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ใกล้วันตรุษจีน 2558 กันแล้ว มารู้วิธีพับกระดาษไหว้เจ้า : ทรงกงจักรและดอกบัว กันนะ

 เรามารู้วิธีพับกระดาษไหว้เจ้า : 
ทรงกงจักรและดอกบัวกัน 

                       
กระดาษไหว้เจ้า ทรงกงจักรและดอกบัวนี้ เป็นรูปแบบใหม่ 
ที่ไม่ได้มีมาแต่โบราณ แต่ทำเพื่อความสวยงาม 
ไม่ได้เป็บรูปแบบบังคับ ว่าต้องใช้สำหรับไหว้อะไร 
แต่เหมาะสำหรับไหว้เจ้า 

 เช่น เจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า
打惱路玄天上帝廟
ตานาวลู่เฉียงเทียนซ่างตี่เมี่ยว
หรือ เฮี่ยงเทียงเซี่ยงตี่กง
สร้างในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๕

 หรือที่ศาลเจ้าพ่อเสือ อ.เมือง จังหวัดกำแพงเพชร

ก็จะมี เจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า 打惱路玄天上帝廟

ตานาวลู่เฉียงเทียนซ่างตี่เมี่ยวหรือ เฮี่ยงเทียงเซี่ยงตี่กง
         พระองค์เดียวกันกับที่ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า เพราะคณะกรรมการของศาลเจ้าทั้งสองแห่ง ได้ทำพิธีอันเชิญมาจากศาลที่เสาชิงช้า มาประทับที่นี่ด้วย เช่นกัน ถือเป็นสาขาหนึ่งของเสาชิงช้า ที่จะดูแลทุกข์สุขของเหล่าชาวจีน และไทย อย่างทั่วหน้า 

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เมืองหลวงไทย หน้าทำเขื่อนและอย่างอื่นจริงหรือ

ประเทศไทย เมืองหลวงเรา กำลังเป็นฮวงจุ้ยเสีย จริงหรือ
ความจริงเรื่องนี้ผมได้เดินดาวดวงเมืองกับอาจารย์ของผม แต่ท่านไม่ขอให้เอ่ยนาม จึงต้องใช้
ชื่อผมเป็นผู้จัดทำ ผมขอรับผิดชอบข้อเขียนนี้แต่เพียงผู้เดียว
กอลิ๊มอั๊ง
          
ถ้าเราเปิดอกยอมรับความจริงกัน ขอเสนอคำว่า สรรพสิ่งย้อมแปรผัน
ทำไมต้องย้าย ? ย้ายแล้วดีอย่างไร ? 
ผมมีคำตอบ อ่านให้จบก่อน แล้วค่อยสรุปว่าผมคิดผิด
               
อันดับแรก ผมขอให้ท่านดู ฮวงจุ้ยเมืองหลวงใหม่ของพม่าครับ
เมืองหลวงเก่าชื่อ ย่างกุ้ง ส่วน เมืองหลวงใหม่ชื่อ เนปิดอว์
เมืองหลวงเก่าอยู่ติดทะเล ทะเลอยู่ด้านทิศใต้ของเมืองหลวง
เมืองหลวงใหม่ ทิศใต้ คือแผ่นดินใหญ่
 มีความอุดมสมบูรณ์มาก มีย่างกุ้งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ
ในขณะที่บ้านเราเกิดวิกฤติ เรื่องน้ำท่วม
             
แต่การย้าย มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมืองหลวงเราเจริญรุ่งเรือง
เกินกว่าจะย้ายได้ 

        

แล้วทำไม ไม่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เราสร้างเขื่อนกันน้ำแบบ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เสียก็หมดเรื่อง 
          
ถูกต้องครับ แต่ไม่ถูกเสียทั้งหมด   

  ผมขอให้ท่านย้อนกลับไปดู
ที่ประเทศพม่า อีกครั้ง แล้วผมจะอธิบายผลดีผล เสียอีก มุมมอง
จากผม ผู้ไม่ได้กล่าวเกินเลยสำหรับในเรื่องนี้
ประเทศพม่าได้ย้ายเมืองหลวงไป ได้ทำอะไรบ้าง
ย้ายสภาผู้แทน


 สถานที่สำคัญ

สนามบินหลัก 

เจดีย์ที่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ

เมืองที่อยู่สำหรับประชากรเพื่อให้มีคนมากๆ จะเกิดพลังที่สำคัญ

เพื่ออะไร ? ทำไมต้องทำ ?
พวกเขาบ้า   หรือโง่ 
ไม่เลยครับ ,,, ผมให้ท่านย้อนกลับไปอดีตนับพันปี 
ความเป็นจริงเราได้มีหลักการดูเรื่องฮวงจุ้ย จากอินเดียและจีน มาพร้อมกัน
ภาษาอิงลิช เรียกว่า โลเกชั่น ไทยก็ชัยภูมิ จีนคือฮวงจุ้ย
คนในประเทศจีนสมัยโบราณ ที่อพยพลงใต้มีหลายเผ่า
ซึ่งรวมทั้งคนไทยน้อยและไทยใหญ่ พวกไทยใหญ่ส่วนหนึ่ง
ก็ได้ไปอยู่กับแขกผิวขาวและดำ มีการผลัดกันปกครองดินแดนเมียร์มาร์ในแต่ละยุคสมัย ยกตัวอย่างในสมัยสามก๊ก ก็ได้มีการ
กล่าวถึงเมืองทีอยู่ในการปกครองแถบนี้ รวมถึงไทย
ดังนั้น เป็นเครื่องยืนยันได้ส่วนหนึ่ง 
ประเทศพม่า นอกจากการหนีเรื่อง
ภัยน้ำท้วมพื่นที่ราบ ส่วนสำคัญที่สุดคือ ได้รับการแนะนำ
จากผู้ชำนาญเรื่องชัยภูมิจากจีน ว่าสมควรต้องย้ายเมืองหลวง
ด้วยเหตุผลคือ อีก 10 ปีข้างหน้า ปี 2568 เป็นยุค 9 
เมื่อเดินดาว 9 ยุคแล้ว ดาว 9 ตกทะเล 
ณ.ช่วงนี้ เดินดาว 8 ยังอยู่ในแผ่นดินที่สมบูรณ์ แต่ถ้า เข้ายุค 8 แล้ว
เดินดาวตกทะเล บ้านเมืองจะตกต่ำวุ่นวายทันที ทั้งนี้ยังไม่รวมเรื่อง
โลกร้อน ที่จะทำให้เกิดน้ำท้วมเมืองหลวง
ผู้ใหญ่ในประเทศพม่า เห็นตรงกันและให้เหตุผลว่า ในยุคสมัยก่อน
เมืองหลวงได้มีการย้ายไปทางโน้นที ทางนี้ที ถ้าย้ายเพื่อป้องกัน
น้ำท้วมและเป็นความมั่นคงในการปกครองรวมทั้งการทหาร
ก็ไม่เห็นจะเสียหาย จึงมีการย้ายไปที่สูงและกลางประเทศ
ชัยภูมิที่ใหม่นี้ถือว่ากินยาว มั่นคงถาวร ต่างกับไทย
ณ วันนี้ ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น 
ความวุ่นวายเกิดจากดาว 9 ยุค หรือไม่ประการได
ลองตามผมมา ดาว 9 ยุค 
ยุคนี้คือ ยุค 8 เมืองหลวงไทย
อยู่กรุงเทพ ทิศอิสานคือรหัส 8 พื้นดินสมบูรณ์บางส่วน 
ส่วนใหญ่ยังแห้งแล้ง ในทุกพื้นที่
คนจนมากมาย ความรู้ต่างๆ ยังสู้ภาคอื่นนั้นไม่ค่อยได้
จึงเป็นที่มาของความสับสน ความเข้าใจสรรพสิ่ง ฯลฯ
เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้นแก่ประเทศไทย แต่ไม่ถึงขั้นไม่มีทางออก
สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือ ถ้าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
น้ำจะท่วมกรุงเทพหรือไม่ประการได การปกครองจะยั่งยืน
เพียงไหน ? ทุกคำถาม ไม่มีคำตอบให้คนไทยสบายใจได้
ถึงวันนี้ เราควรจะศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยดวงเมืองกันอย่างจริงจัง
เสียทีหรือยัง หรือจะรอให้เกิดน้ำท้วมกรุงเทพ และการปกครอง
ที่อาจพังพินาศ สิ้นเสียทุกสิ่ง ลูกหลานต้องอพยพหนีตาย
ผู้มีอำนาจ มีสติบัญญา โปรดพิจารณา ทุกอย่างให้ถี่ถ้วน
อย่าคิดว่า ถึงเวลาค่อยแก้ ไม่ว่าเรื่องน้ำท้วม  หรือเรื่องฮวงจุ้ยเมือง
แห่งการปกครอง( อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องงมงาย )
โปรดตรึกตรองดู อย่างเช่น....  ทำไม เดินดาว 9 ยุค ของโลก ยุค 8 เดินเข้าถึงแผ่นดินจีน จีนถึง
ยิ่งใหญ่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก และในอีก 2 ปี ก็จะกลาย
เป็นอันดับ 1 ของโลกทันที
  
กรุงเทพ เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ นับหามูลค่ามิได้ว่าเท่าไร
แต่เป็นลมหายใจของประเทศ สิ้นฐานเศรษฐกิจของชาติคือกรุงเทพ  ชาติก็สิ้นใจ การเร่งรีบทำเขื่อนเพื่อรักษาเศรษฐกิจของชาติต้องมาก่อน มั่วแต่คิดการใกล้ จะตายในภายหลัง
สิ่งที่สำคัญที่สุด ตามหลักฮวงจุ้ยประเทศ คือศูนย์กลางการปกครอง
ศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ ซึ่งวันนี้มีชาติที่สงบสุขที่แท้จริง คือ
พระเจ้าอยู่หัว ของเรา 
จะสร้างเมืองหลวงที่พระองค์ประทับอีกสักที่ จะเสียเงินสักกี่มากน้อย
ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ยังมีเมืองหลวงหลัก คือเกียวโต เมืองหลวง
รองคือโตเกียว ถ้าเข้ายุค 3 พระองค์ท่าน ( จักรพรรดิญี่ปุ่น ) 
ก็ย้ายไปเกียวโต  ไม่มีเสียหายประการใดเลย
แต่ถ้ายุค 1 จะไม่ประทับอยู่ที่เกียวโต เพราะดาว 1 ตกน้ำ ทะเลสาบ
ซึ่งอยู่เหนือเมืองหลวงเกียวโต การปกครองก็ปั่นป่วน มีให้เห็นใน
อดีตของประเทศญี่ปุ่น เมื่อร้อยกว่าปีมานี้
        
เมืองหลวงใหม่ จะเป็นลพบุรี หรือที่ใดก็สุดแล้วแต่ ที่จะย้ายไป 
เพียงแต่ให้เข้าใจหลักของฮวงจุ้ย ดาว 9 ยุคเท่านั้น ชาติจึงจะร่มเย็น
เป็นสุขสืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ชนรุ่นเราจะได้นอนตายตาหลับ...
หมดห่วงกันเสียที เชื่อผม

กลุ่มศิษย์ ปรมาจารตั้งกวงจือ สถาบันศาสตร์ฮวงจุ้ย และดวงจีน แห่งประเทศไทย กลุ่มศิษย์ ปรมาจารย์ ตั้งกวงจือ สถาบันศาสตร์ฮวงจุ้ย และดวงจีน แห่งประเทศไทย ให้ความรู้ สอนและทบทวนวิชาฮวงจุ้ย ดวงจีน โหราศาสตร์ของจีน เป็นกลุ่มปิด ที่ให้เฉพาะผู้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ ตั้งกวงจือ ที่เรียนกันมาตั้งแต่ต้นที่เปิดสอนมาหลายสิบปี จนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงผู้ที่เคยเชิญ ปรมาจารย์ไปดูฮวงจุ้ยให้ เป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างศิษย์ และเพื่อพบปะ สังสรรค์พูดคุยกันในหมู่ศิษย์เก่าด้วยกัน รวมไปถึง ผู็ให้ความเคารพนับถือปรมาจารย์ ตั้งกวงจือ ให้เครดิตท่าน ถึงแม้อาจจะเป็นซินแสแล้วก็ตาม แต่ต้องยอมรับทางสังคมว่า มีท่านเป็นอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ตน อีกหนึ่งท่าน ( ถือเป็นผู้มีคุณธรรม )

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มาตรวัดของจีน เกี่ยวข้องกับคนเป็น คนตาย อย่างไร

ผมคนจีนแคะ เซี่ยงกอ 高林安    客家人  แชร์มาเผยแพร่ในบล็อกเกี่ยวกับ

 เที่ยว-ไหว้ ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า เมืองกำแพงเพชร

 อยากให้คนทั่วไปรู้จักคนจีนแคะมากขึ้น จึงนำมาแบ่งปันความรู้ดีๆ 

จากชาวจีนแคะ หวังว่าท่านจะเข้าไปอ่านและ

ทำความรู้จักจีนแคะในไทยกันนะครับ


ทุกคนสนใจ ที่จะซื้อตลับเมตร ที่มีภาษาจีนมาใช้กันมาก เพราะรู้ว่ามันมีประโยชน์ แต่ไม่รู้ว่ามีหลักการใช้อย่าง ไร เพราะขาดความรู้ความเข้าใจ จะมี 2 ส่วน ใช้กับคนเป็น แถวหนึ่ง กับ ใช้กับคนตาย อีกแถวหนึ่ง เมื่อเราวัดของแต่ละแถว จะมีอักษรสีแดง(เป็นมงคล) และ สีดำ(ไม่เป็นมงคล) ความหมายที่เราจะเลือก ต้องสอดคล้องกับกิจนั้น ๆ หรือประสานกิจ ส่งเสริมกันและกันครับ  

คนเรามีมิติชีวิต 2 ด้าน ด้านหนึ่งความเป็นมนุษย์ อาจจะเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ความทะเยทะยาน ความโลภมาก อยากให้มีชีวิตไปสู่ความฝัน อยากจะให้ชีวิตการงานก้าวหน้า  จึงเรียกส่วนนี้ว่า คนเป็น
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลูกหลาน เกิดความขี้ขาด ความกลัว ระแวง กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น  เมื่อญาติถึงแก่กรรม อะไรต่าง ๆ นานาสารพัด จึงทำให้มีส่วนของคนตายด้วย


ความยาวของการวัด จะมีวัฎจักร หมุนเวียนเป็นรอบ เราต้องดูภาษาจีัน ว่าแปลว่าอะไร ตรงกับตัวอักษรอะไร  ความหมายเหมาะสมหรือไม่ การกำหนดความยาวแต่ละด้าน จะต้องส่งเสริมกันอย่างไร เช่นฐานที่เสริมขึ้นให้ศาลเจ้าที่ เป็นต้น

ก่อนที่ไหง่จะลงรูปไม้บรรทัด ความหมายของระยะความยาวนั้น   ต้องขอย้ำว่า มันเป็นลิทขสิทธิ์ ห้ามเผยแพร่ในทางการค้า หรือแอบอ้างว่าเราเป็นคนคิดความหมาย เพราะไม้บรรทัดนี้ จะมีการระบุว่า มีการจดลิขสิทธิืเอาไว้ ก่อนใช้ขอให้ท่านยกย่องคุณดำรงค์ชัย แท่นศรีเจริญ ด้วยทุกครั้ง คนไท้ปูหยิ่น และคุณมงคล มหกิจไำพศาล คนไท้ปูหยิ่น เหมือนกัน เพื่อตอบแทนความรู้ ที่ให้แก่พวกเรา ด้วยนะครับ และท่านใดจะโหลดเอาไปใช้ เช่นกัน ต้องกล่าวยกย่องก่อนใช้ทุกครั้งด้วยครับ ไหง่มีความสนิทกับทั้ง 2 ท่าน จึงขออนุญาติ นำมาเผยแพร่เพื่อฮากกาหยิ่น
 
มาตรวัดที่เราซื้อมาใช้ จะมี 2 ส่วน หน่วยด้านบนเป็นของคนเป็น  เริ่มจากตัว ใช้ ไปเรื่อย ๆ เมื่อครบรอบไม้บรรทัด(ที่จะแสดงข้างล่าง)  ก้อจะมาเริ่มแสดงค่าให้ใหม่ จะวนเวีัยนเป็นรอบ ๆ ให้เราอ่านความหมายได้ตามไม้บรรทัด ดังนี้

แสดงส่วนความหมายของคนเป็น ขอให้เรารู้จักกันก่อน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับมาตราวัดข้างต้น จะมีวัฏจักร ทุก 43 เซ็นติเมตรเริ่มต้นใหม่

 
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนตาย ที่เราจะตั้งหรือวัดในตำแน่งไหนที่เหมาะสม จะมีรอบวัฏจักร 43 เซ็นติเมตร แล้วเริ่มรอบใหม่

อนึ่งไม้บรรทัดนี้ มีคำว่า ลิขสิทธิ์ ขอให้ท่านที่จะเอาไปเผยแพร่ โปรดระมัดระวัง ครับ เป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของฮากกาครับ 

ของดีอย่างหนึ่งครับ ต้องขอยกย่องครับ  ขักกาหยิ่นไม่ค่อย รู้จักกันครับ
ขอให้ท่านติดตามต่อไปครับ จะสอนให้รู้จักคุณค่า ในการที่จะนำไปใช้ประโยชน์ สร้างเสน่ห์ให้ชีวิต
รูปแบบของ ของสิ่งหนึ่ง ย่อมมีความกว้าง ความยาว บางอย่าง ก้อหลายด้าน บางอย่างก้อด้านเดียว เช่นประตูทางเข้า   ร้านค้า  สำนักงาน   โรงงาน   
กิจการของร้าน  7-11 ประตูจะมีความกว้างประมาณ 105 ซม. ตำแหน่งเงินทองไหลมา เหมาะสำหรับการค้าขาย ที่ต้องการการเคลื่อนไหว เข้าออกในบริมาณที่หมุนเวียนบ่อย ลักษณะโชห่วยครับ ส่วนโลตัส กิจการคล้าย 7-11 ประตูกว้าง 90 ซม. ตำแหน่งโชคลาภ ไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับกิจการค้าที่ดำเนินอยู่ เพราะจะรอโชคลาภ ไม่ได้ ต้องอาศัยคนเข้า-ออก บ่อย ๆ หมุนเวียนครับ
เรื่องฐานที่ทำเป็นกล่องเพิ่มให้เจ้าที่ ศาลเจ้า ก่อนจะเล่าต่อไป ขอให้ท่านผู้อ่าน จะต้องทำความเข้าใจว่า ตัวศาล จะมีความสูงประมาณ 4-5 เซ็นติเมตร เมื่อเราจะทำฐานเพิ่มความสูง เราจะต้องนำมานับรวมด้วย เช่นตำแหน่ง 17 เซ็นติเมตร เป็นตำแหน่งค้าขายรุ่งเรือง จึงเหลือที่ทำฐานเพิ่มอีก 12 เซ็นติเมตร ครับ ส่วนด้านอื่น ๆ ความกว้าง ความยาว จะเป็นองค์ประกอบที่เราต้องการส่งเสริมเพิ่ม จะทำตัวอย่างมาแนะนำให้กระจ่างชัดเจน เพื่อท่านผู้ใด กลับไปตรวจสอบของที่บ้านตนเองใหม่ครับ 
     ขอให้อ่านทบทวนสักระยะหนึ่งก่อน จะมาคุยกันถึงการที่เราจะใช้ทำอะไรได้บ้างครับ และจะหาทางออกเรื่องไม้บรรทัด จะถ่ายสำเนาส่งไปให้ทางเว็บ โดยอาจจะระบุเพื่อการศึกษาของชาวฮากกา คิดว่าท่านอาจารย์ดำรงชัย ฯ ท่านจะเมตตาพวกเราฮากกา เพื่อกระจายต่อไป 
 
เพิ่มเติมโดยภาพ 高林安

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ชีวิตร่างทรงเจ้าพ่อเสือ กำแพงเพชร

ล้มแล้วลุก ร่างทรงเจ้าพ่อเสือ"เพราะอะไร"
 เขียนประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งใน  ศาลเจ้าพ่อเสือ กำแพงเพชร
        ผมเป็นร่างทรงแล้วรู้สึกอาย จึงพยายามหนีการเชิญลงทรง แถมปฎิบัติตัวเองไม่ทำตัวให้สอาดพอ คิดแต่เมื่อทำการค้าหวังให้เจ้าช่วยฝ่ายเดียว อย่างไรเสียผมมันก็ต้องเจ๊งจนได้ 
          
       เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำธุระกิจการค้าหลังจากเจ้าจับเป็นร้างทรงก็เจริญรุ่งเรืองต่อมาเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนในวงการค้าด้วยกันมองผมเหมือนกับคนบ้า ชอบถามว่าเฮียลงทรงได้อย่างไรนี่ ก็ส่วนหนึ่ง
         
   ที่หนักกว่านั้นคือ พี่ชายผมไม่เชื่อว่าเจ้ามาทรงผมจริงคิดว่าผมแสดงเอง เคยถามผมแบบทีเล่นทีจริงว่า เองแสดงได้อย่างไงวะเฮียไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ถามผมเล่นบ่อยๆ ผมก็เสียใจที่ทำให้ญาติพี่น้องอับอายแถมอาจจะรวมถึงลูกด้วยก็ได้จึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่อยากทรงอีกเลย
                        
     อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากที่เรามั่นใจในความเป็นคนดีมีศีลธรรมไม่คตโกงใคร แค่นี้พระเจ้าก็ต้องดูแลเราแล้ว ไม่ต้องทรงก็รวยได้ เมื่อไม่ยอมทรงอีกผมก็เลยปล่อยตัวตามสบาย บางครั้งไม่รักษาเนื้อรักษาตัว ทำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ไม่สมควรเข้า หรือกิริยาที่เหมาะสมกับเป็นร่างซึ่งมีส่วนหนึ่งที่เพราะเรามีเจ้าคุมไวั จนทำตัวเสียสกปรกจากสิ่งไม่เป็นมงคล ไม่ยอมปฎิบัติตัวให้สอาดพอควรอีกเลย "ถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่เลือกที่ของร่างกายเขา" ไปสถานที่อโคจร แม้ที่บางแห่งที่บนประตูทางเข้าสถานที่นั้นมีสิ่งสกปรกของต่ำที่เขาทำพิธีเอาไว้ เอาไปแขวนไว้บนนั้น ให้ลูกค้าเดินผ่านแล้วจะซวย. เพื่อจะได้จ่ายเงินให้หญิงขายบริการแบบไม่มีสติ สิ่งมงคลเสื่อม
               
   ที่ร้ายแรงมากด้วยคือ ผมทำโรงงานรถไถแบบเกินตัวและแบบไม่มีจิตใจที่ดีงามพอ งกและไม่รักษาคำพูดทางการค้าเท่าที่ควร เพียงเพื่อหวังขยายฐานลูกค้าเพียงแค่นั้นเอง. พอมีคนหรือคู่แข่งมากลั่นแกล้งก็ตอบโต้ 
จนไม่เหลือความฉลาดอีกเลย คือไม่มีสตินั่นเอง ทั้งไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว ไม่อยู่คุมโรงงานให้ดี
                              
  ส่วนเรื่องพระเรื่องเจ้าไม่เคยใส่ใจอีกเลย แทบจะไม่ไหว้พระเจ้ากันเป็นปีเลย ในจิตใจคิดแต่น้อยใจที่ตัวเองเป็นร่างทรง คิดว่าตนไม่มีศักดิ์ศรี จึงมีส่วนไม่ไปที่ศาลเจ้าอีกเป็นเวลานานมาก 
                         
   จนเข้าปี พ.ศ. 2540 มีการลดค่าเงินบาท โรงงานผมก็ยังทำต่อได้ แต่พออีก 2 ปี ผมก็ต้องปิดโรงงาน เสียหายเงินที่สะสมมานับสองร้อยล้าน ( เพราะตอนนั้นรุ่งมาก จนถือว่ามีฐานะดีมากทีเดียวในขณะนั้น ) แถมเป็นหนี้ทางการค้าแบบมหาศาล แทบฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
              
 ผมได้หันมาสนใจเรื่องพระเรื่องเจ้าอีกครั้ง แล้วอธิฐานขอให้เจ้าช่วยอีกครั้ง ให้มีชีวิตที่ดีใหม่แล้วจะยอมทรงอีกแบบไปตลอดชีวิตเลย. แต่ขอให้มีทุนใหม่อีกสักก้อนเพื่อลงทุนใหม่ในธุระกิจใหม่ แค่ผ่านไปไม่ถึงเดือนดี.  ผมก็ได้เงินมาแบบฟุกจริงๆ ซึ่งไม่หน้าจะเป็นไปได้ ไม่ใช่หวยหรือใครเอาเงินมาให้ฟรีๆ ( ไว้ผมจะเราเรื่องความมหัสจรรย์ให้ทราบอีกต่างหากเพราะเรื่องมันยาว ) ผมก็ได้เงินเกือบล้านมาก้อนหนึ่ง แล้วผมก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในชีวิตจนได้
                         
  แล้วจากนั้นมา ผมก็ได้สนใจอยากรู้เรื่องดวงผมอย่างจริงจังเพราะผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดูซักเท่าไร คิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดาเสียมากกว่า สนใจพร้อมกับเรื่องฮวงจุ้ย เที่ยวหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มาอ่าน ได้ไปเห็นหนังสือฉบับหนึ่งที่ชื่อ ชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต ผมจึงสมัครเข้าไปเรียนรู้ เมื่อผมเรียนจบผมก็แปลกใจมากที่บางสิ่งที่มีเขียนอยู่ในตำรานั้นบางอย่างบางวิชามันช่างเหมือนกับการกระทำของเจ้าที่เวลาทรงอยู่ในตัวผม มีการทำนายคนที่เข้ามาหาเจ้าขอให้ช่วยเหลือ อีกทั้งเวลาออกแห่จะมีการบอกแก่ชาวบ้านเกี่ยวกับการแก้ไขบ้านให้ดี การสอนคนไหว้เจ้าก็สอนได้ ทั้งๆ ที่ผมไม่เป็นอะไรเลยและไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้เลย นี่เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งระหว่างเป็นร่างทรงเจ้าที่มีตัวจิตเรารู้สึกคลุมเครือบ้าง
                        
  และมีคนในจังหวัดกำแพงเพชรบอกอีกส่วนหนึ่ง ส่วนอาจารย์ที่สอนเรื่องดวงกับเรื่องฮวงจุ้ยจีนนั้นก็คือ เหล่าซือ ตั้งกวงจือ มาจากเมืองจีนขณะนี้ก็อายุ 59 ปีแล้ว หน้าจะปี พ.ศ. 2543 เห็นจะได้ ที่ไปเรียนกับเขา เขาไม่มี
การกล่าวอ้างเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือตัวเองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แฝงอยู่ในตัวเองเลย เขาสอนจากตำราจีนที่คัดเอาของแท้โบราณมาสอนล้วนๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นเรื่องเหล่านี้ในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีการเปิดสอนกันสักเท่าไรเพราะมีอาจารย์ไม่กี่คนที่เข้าใจภาษาจีนศัพย์ตำราเหล่านี้. ที่จะมีก็หมอดูทั่วไป ที่มักจะอ้างมีเทพแฝงตัวหมออยู่เสมอ  ผิดถูกไม่รู้หล่ะจะพูดจะทำอะไรก็มั่วไปหมด
       
 ผมได้เรียนแล้วก็เอาวิชาที่เรียนมา มาปรับปรุงฮวงจุ้ยที่โรงงานที่ถูกธนาคารยึดไว้ให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ก่อนหน้านั้นไม่มีใครสนใจซื้อหรือมองเลยเพราะตัวโรงงานไม่ถูกหลักฮวงจุ้ยและไม่มีพลังที่ดีในตัวเอง แต่พอแก้ฮวงจุ้ยให้ดีขึ้นแล้ว กลับมีคนมาสนใจซื้อ มีการติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ตอนหลังน้องชายผมก็อยากได้ด้วย ผมจึงตกลงขายให้น้องชายไป 
                 
น้องชายผมได้ซื้อกับแม่ผม ท่านก็มีน้ำใจช่วยเรื่องที่ทางการทำมาหากินให้ครอบครัวผม แทนการตอบแทนที่จะจ่ายให้เป็นเงินทอง ครอบครัวผมจึงได้มีความมั่นคงสามารถทำการค้าสืบต่อมาถึงบัดนี้นั่นเอง
      จะว่าไป โชคมาได้ก็ส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ทั้งจากพระเจ้าช่วยผมและครอบครัวด้วยอย่างแน่นอน และการแก้ดวงตัวเอง (คือแก้นิสัย ) แก้ฮวงจุ้ยที่โรงงานร้างของผมที่ปิดไปให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งรวมที่บ้านอยู่อาศัย ที่นอนของตัวเองด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการทำและแก้ฮวงจุ้ยด้วยตัวเองจากตำราที่เรียนมาและอาศัยเทพเจ้าที่อยู่กับเราท่านเคยช่วยคนอื่น อาจมีการดลจิตดลใจเราให้ทำให้ถูกต้องด้วยกระมัง....
                          เขียนบันทึกทบทวนความจำย้อนหลังเมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว
                                   วันหยุดปีใหม่พักผ่อนอยู่กับบ้าน  1/1/2558 
                             อยู่คนเดียวเลยเงาแล้วได้โอกาสเขียน จาก กอลิ๊มอั๊ง