วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ชีวิตร่างทรงเจ้าพ่อเสือ กำแพงเพชร

ล้มแล้วลุก ร่างทรงเจ้าพ่อเสือ"เพราะอะไร"
 เขียนประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งใน  ศาลเจ้าพ่อเสือ กำแพงเพชร
        ผมเป็นร่างทรงแล้วรู้สึกอาย จึงพยายามหนีการเชิญลงทรง แถมปฎิบัติตัวเองไม่ทำตัวให้สอาดพอ คิดแต่เมื่อทำการค้าหวังให้เจ้าช่วยฝ่ายเดียว อย่างไรเสียผมมันก็ต้องเจ๊งจนได้ 
          
       เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำธุระกิจการค้าหลังจากเจ้าจับเป็นร้างทรงก็เจริญรุ่งเรืองต่อมาเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนในวงการค้าด้วยกันมองผมเหมือนกับคนบ้า ชอบถามว่าเฮียลงทรงได้อย่างไรนี่ ก็ส่วนหนึ่ง
         
   ที่หนักกว่านั้นคือ พี่ชายผมไม่เชื่อว่าเจ้ามาทรงผมจริงคิดว่าผมแสดงเอง เคยถามผมแบบทีเล่นทีจริงว่า เองแสดงได้อย่างไงวะเฮียไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ถามผมเล่นบ่อยๆ ผมก็เสียใจที่ทำให้ญาติพี่น้องอับอายแถมอาจจะรวมถึงลูกด้วยก็ได้จึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่อยากทรงอีกเลย
                        
     อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากที่เรามั่นใจในความเป็นคนดีมีศีลธรรมไม่คตโกงใคร แค่นี้พระเจ้าก็ต้องดูแลเราแล้ว ไม่ต้องทรงก็รวยได้ เมื่อไม่ยอมทรงอีกผมก็เลยปล่อยตัวตามสบาย บางครั้งไม่รักษาเนื้อรักษาตัว ทำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ไม่สมควรเข้า หรือกิริยาที่เหมาะสมกับเป็นร่างซึ่งมีส่วนหนึ่งที่เพราะเรามีเจ้าคุมไวั จนทำตัวเสียสกปรกจากสิ่งไม่เป็นมงคล ไม่ยอมปฎิบัติตัวให้สอาดพอควรอีกเลย "ถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่เลือกที่ของร่างกายเขา" ไปสถานที่อโคจร แม้ที่บางแห่งที่บนประตูทางเข้าสถานที่นั้นมีสิ่งสกปรกของต่ำที่เขาทำพิธีเอาไว้ เอาไปแขวนไว้บนนั้น ให้ลูกค้าเดินผ่านแล้วจะซวย. เพื่อจะได้จ่ายเงินให้หญิงขายบริการแบบไม่มีสติ สิ่งมงคลเสื่อม
               
   ที่ร้ายแรงมากด้วยคือ ผมทำโรงงานรถไถแบบเกินตัวและแบบไม่มีจิตใจที่ดีงามพอ งกและไม่รักษาคำพูดทางการค้าเท่าที่ควร เพียงเพื่อหวังขยายฐานลูกค้าเพียงแค่นั้นเอง. พอมีคนหรือคู่แข่งมากลั่นแกล้งก็ตอบโต้ 
จนไม่เหลือความฉลาดอีกเลย คือไม่มีสตินั่นเอง ทั้งไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว ไม่อยู่คุมโรงงานให้ดี
                              
  ส่วนเรื่องพระเรื่องเจ้าไม่เคยใส่ใจอีกเลย แทบจะไม่ไหว้พระเจ้ากันเป็นปีเลย ในจิตใจคิดแต่น้อยใจที่ตัวเองเป็นร่างทรง คิดว่าตนไม่มีศักดิ์ศรี จึงมีส่วนไม่ไปที่ศาลเจ้าอีกเป็นเวลานานมาก 
                         
   จนเข้าปี พ.ศ. 2540 มีการลดค่าเงินบาท โรงงานผมก็ยังทำต่อได้ แต่พออีก 2 ปี ผมก็ต้องปิดโรงงาน เสียหายเงินที่สะสมมานับสองร้อยล้าน ( เพราะตอนนั้นรุ่งมาก จนถือว่ามีฐานะดีมากทีเดียวในขณะนั้น ) แถมเป็นหนี้ทางการค้าแบบมหาศาล แทบฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
              
 ผมได้หันมาสนใจเรื่องพระเรื่องเจ้าอีกครั้ง แล้วอธิฐานขอให้เจ้าช่วยอีกครั้ง ให้มีชีวิตที่ดีใหม่แล้วจะยอมทรงอีกแบบไปตลอดชีวิตเลย. แต่ขอให้มีทุนใหม่อีกสักก้อนเพื่อลงทุนใหม่ในธุระกิจใหม่ แค่ผ่านไปไม่ถึงเดือนดี.  ผมก็ได้เงินมาแบบฟุกจริงๆ ซึ่งไม่หน้าจะเป็นไปได้ ไม่ใช่หวยหรือใครเอาเงินมาให้ฟรีๆ ( ไว้ผมจะเราเรื่องความมหัสจรรย์ให้ทราบอีกต่างหากเพราะเรื่องมันยาว ) ผมก็ได้เงินเกือบล้านมาก้อนหนึ่ง แล้วผมก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในชีวิตจนได้
                         
  แล้วจากนั้นมา ผมก็ได้สนใจอยากรู้เรื่องดวงผมอย่างจริงจังเพราะผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดูซักเท่าไร คิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดาเสียมากกว่า สนใจพร้อมกับเรื่องฮวงจุ้ย เที่ยวหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มาอ่าน ได้ไปเห็นหนังสือฉบับหนึ่งที่ชื่อ ชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต ผมจึงสมัครเข้าไปเรียนรู้ เมื่อผมเรียนจบผมก็แปลกใจมากที่บางสิ่งที่มีเขียนอยู่ในตำรานั้นบางอย่างบางวิชามันช่างเหมือนกับการกระทำของเจ้าที่เวลาทรงอยู่ในตัวผม มีการทำนายคนที่เข้ามาหาเจ้าขอให้ช่วยเหลือ อีกทั้งเวลาออกแห่จะมีการบอกแก่ชาวบ้านเกี่ยวกับการแก้ไขบ้านให้ดี การสอนคนไหว้เจ้าก็สอนได้ ทั้งๆ ที่ผมไม่เป็นอะไรเลยและไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้เลย นี่เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งระหว่างเป็นร่างทรงเจ้าที่มีตัวจิตเรารู้สึกคลุมเครือบ้าง
                        
  และมีคนในจังหวัดกำแพงเพชรบอกอีกส่วนหนึ่ง ส่วนอาจารย์ที่สอนเรื่องดวงกับเรื่องฮวงจุ้ยจีนนั้นก็คือ เหล่าซือ ตั้งกวงจือ มาจากเมืองจีนขณะนี้ก็อายุ 59 ปีแล้ว หน้าจะปี พ.ศ. 2543 เห็นจะได้ ที่ไปเรียนกับเขา เขาไม่มี
การกล่าวอ้างเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือตัวเองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แฝงอยู่ในตัวเองเลย เขาสอนจากตำราจีนที่คัดเอาของแท้โบราณมาสอนล้วนๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นเรื่องเหล่านี้ในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีการเปิดสอนกันสักเท่าไรเพราะมีอาจารย์ไม่กี่คนที่เข้าใจภาษาจีนศัพย์ตำราเหล่านี้. ที่จะมีก็หมอดูทั่วไป ที่มักจะอ้างมีเทพแฝงตัวหมออยู่เสมอ  ผิดถูกไม่รู้หล่ะจะพูดจะทำอะไรก็มั่วไปหมด
       
 ผมได้เรียนแล้วก็เอาวิชาที่เรียนมา มาปรับปรุงฮวงจุ้ยที่โรงงานที่ถูกธนาคารยึดไว้ให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ก่อนหน้านั้นไม่มีใครสนใจซื้อหรือมองเลยเพราะตัวโรงงานไม่ถูกหลักฮวงจุ้ยและไม่มีพลังที่ดีในตัวเอง แต่พอแก้ฮวงจุ้ยให้ดีขึ้นแล้ว กลับมีคนมาสนใจซื้อ มีการติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ตอนหลังน้องชายผมก็อยากได้ด้วย ผมจึงตกลงขายให้น้องชายไป 
                 
น้องชายผมได้ซื้อกับแม่ผม ท่านก็มีน้ำใจช่วยเรื่องที่ทางการทำมาหากินให้ครอบครัวผม แทนการตอบแทนที่จะจ่ายให้เป็นเงินทอง ครอบครัวผมจึงได้มีความมั่นคงสามารถทำการค้าสืบต่อมาถึงบัดนี้นั่นเอง
      จะว่าไป โชคมาได้ก็ส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ทั้งจากพระเจ้าช่วยผมและครอบครัวด้วยอย่างแน่นอน และการแก้ดวงตัวเอง (คือแก้นิสัย ) แก้ฮวงจุ้ยที่โรงงานร้างของผมที่ปิดไปให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งรวมที่บ้านอยู่อาศัย ที่นอนของตัวเองด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการทำและแก้ฮวงจุ้ยด้วยตัวเองจากตำราที่เรียนมาและอาศัยเทพเจ้าที่อยู่กับเราท่านเคยช่วยคนอื่น อาจมีการดลจิตดลใจเราให้ทำให้ถูกต้องด้วยกระมัง....
                          เขียนบันทึกทบทวนความจำย้อนหลังเมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว
                                   วันหยุดปีใหม่พักผ่อนอยู่กับบ้าน  1/1/2558 
                             อยู่คนเดียวเลยเงาแล้วได้โอกาสเขียน จาก กอลิ๊มอั๊ง
   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น